![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEj9ByAXD5Mixqd8-v7nVb5YAy6Kfb74JnNyuNZYVlKg2yH0m8L_jBoUcKQyPfTbqmaOvC4tA1kPsgq60hTbRYYgdPCsTugW1P_3jsX7_is-2bkeUYWvCDnVwzFbIhvgk6kUYBwBDylXXvZV/s320/AA.jpg)
โดย สุรศักดิ์ วิฑูรย์
ผมไม่อาจรู้ได้ว่ามันเป็นบุญ เป็นโชคชะตา เป็นวาสนา หรือเป็นเพียงแค่สายลมที่หลงทางมาแล้วพัดพาผมให้มาเลือกลงเรียนกับอาจารย์ตอนอยู่ปีสาม แต่ไม่ว่ามันจะเป็นอะไรก็ชั่ง ผมถือว่าผมโชคดีและต้องขอขอบคุณสิ่งนั้นที่ทำให้ผมรู้จักอาจารย์ กับโอกาสหลาย ๆ อย่าง ที่ผมเองมีสิทธิที่จะปฏิเสธมันก็ได้ แต่ผมเลือกมัน... การเป็นศิษย์ของอาจารย์เมธี โอกาสหลาย ๆ อย่างดังกล่าวคงเล่าได้ไม่หมดเพียงไม่กี่หน้ากระดาษ อย่างแรกคือการเอาใจใส่ต่อนักศึกษาของจารย์ แน่นอน กับการที่ผมเปลี่ยนจากการนุ่งการเกงนักเรียนขาสั้นสีกากี มาเป็นกางเกงแสลกสีดำนั้น ไม่ได้ทำให้ผมเป็นผู้ใหญ่ได้ภายในปีสองปี ใช่หรือไม่ว่า หลายครั้งความเป็นเด็กที่หลงเหลืออยู่ในตัวของเรานั้นคอยแต่จะอ้อนให้เราทำเป็นเหนื่อย ไม่อยากอ่านหนังสือ อยากนอนมากกว่า การบ้านเอาไว้ก่อนแล้วกัน หรือว่าไปเรียนสายก็คงไม่เป็นไร นั่นคืออาการของคนใกล้จะหลงทางใช่หรือไม่ การหลงทางเกิดขึ้นได้กับเด็กเสมอเมื่อเดินทางไปในที่ที่ไม่คุ้นเคยโดยปราศจากผู้ใหญ่คอยชี้แนะนำทาง บ่อยครั้งผมรู้สึกว่ายังเป็นเด็กที่ต้องการการอบรม ส่งสอน ตักเตือนจากผู้ใหญ่ ให้รู้ว่าตัวเองเป็นใครและหน้าที่ของตัวเองคืออะไรอยู่ตลอดเวลา ซึ่งบ่อยครั้งที่เถลไถล อาจารย์ก็เป็นอีกหนึ่งคนที่คอยดูแลเอาใจใส่ตักเตือนเราราวพ่อกับแม่ ผมได้รู้ว่า คำส่งสอนตักเตือนของจารย์ หากเราปล่อยให้มันผ่านไปตามลมมันก็เป็นเพียงเคลื่อนเสียงที่เหือดหายสิ้นแรงไปกับสายลมและแสงแดดนั้นในเวลาเพียงไม่กี่วินาที แต่ถ้าหารเราน้อมรับมันไว้ มันก็ทำให้เรามีกำลัง มีแรงที่จะเล่าเรียนเพื่ออะไรสักอย่างที่ไม่ใช่แค่การมาเข้าห้องเรียน ไปทานข้าวกับเพื่อน หรือเรียนผ่าน ๆ ไปวัน ๆ (for something not for nothing) แค่คำว่าดีใจและขอบคุณคงไม่พอกับการมีอาจารย์คอยชี้ทางให้เลือกเดิน หากวันข้างหน้าของการเป็นครูของผมมาถึงผมจะทำหน้าที่ผู้นำทางให้ศิษย์ให้ดีเท่ากับอาจารย์
หากชีวิตการเป็นนักศึกษาคือการแสวงหาหนทางเพื่อตามหาความฝันของวัยหนุ่มสาว อาจารย์ก็เป็นแบบอย่างให้ศิษย์ผู้นี้ได้เรียนรู้และถือเป็นแบบอย่างได้เป็นอย่างดี ครูคืออาชีพที่ผมอยากใฝ่ฝัน เพราะอยากจะสอนและชอบสอนภาษาอังกฤษ แต่เมื่อได้มาเรียนรู้อาจารย์ การเป็นครูมันมากกว่านั้นนัก เปล่าเลย “มาก” ไม่ได้ทำให้ผมเกรงกลัว ตรงกันข้ามกลับยิ่งอยากเป็นครูมากยิ่งขึ้น อยากเป็นครูที่ไม่ได้สอนเฉพาะภาษาอังกฤษ แต่ขัดเกลาศิษย์ให้เห็น ศีลธรรม จริยธรรม ความถูกต้อง ความชอบธรรม ความเอื้อเฟ้อเผื่อแผ่ ความมีน้ำใจ สิ่งเหล่านี้ผมได้ยินหลายคนบอกกล่าวถึงอยู่บ่อย ๆ และฟังดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่เพ้อฝันเกินจริง แต่ผมเห็นอาจารย์ทำมันผ่านตาผมหลายครั้ง และเลยเข้าไปถึงใจเห็นได้ถึงความมุ่งมั่นและแน่วแน่ของอาจารย์ มันจะเป็นเรื่องเพ้อฝันได้อย่างไรกันเล่า สิ่งสำคัญจึงไม่ใช่แค่ได้ยินจากปากอาจารย์หรือใครต่อใคร หรือได้เห็นด้วยตา แต่มันคือศรัทธาและความชื่อมั่นที่ผมจะทำในสิ่งที่หลายคนเรียกว่าความเพ้อฝันเหล่านี้ให้เป็นจริงอีกหลาย ๆ ครั้งต่อจากนี้ไป
ที่ละรายละเอียดผมพยายามดูดซับจิตวิญญาณแห่งความเป็นครูจากอาจารย์อย่างเงียบ ๆ ตามแบบของผม
อาจารย์เป็นครูได้ทุกที่ทุกเวลา อาจารย์ไม่ได้สอนผมแต่ในห้องเรียนหรอก บนถนนผมยังได้เรียนรู้จากอาจารย์ที่สั่งสอนศิษย์ได้ตลอดเวลา หลายครั้งคำสอนฟังดูคล้าย ๆ เสียงของครูแก่ขี้บ่น แต่หากฟังดูดี ๆ อีกครั้ง มันเป็นการปลูกฝังเพื่อเรา ๆ โดยปฏิเสธไม่ได้เลย อาจารย์ยังเป็นครูผู้เสียสละที่บ่อยครั้งต้องการเพียงแค่รอยยิ้มเป็นค่าแรง บางครั้งจากอาจารย์แก่ ๆ ก็เป็นคุณตาใจดีหอบหิ้วอุปกรณ์การเรียนไปสอนเด็กน้อยในสวนใต้ร่มไม้ คุณตาสละกำลังกายวัยชรา กำลังทรัพย์จากน้ำพักน้ำแรงตนมาแต่เริ่มแรก รวมถึงเวลาพักผ่อนตามประสา ไปกับการทำงานเพื่อสังคม การเดินทางไปสอนเด็กน้อยที่บ้านเกิดของตัวเองของคุณตา มันคือแรงบันดาลใจที่ทำให้ใจผมชุ่มฉ่ำ อยากให้ในสิ่งที่อาจารย์หยิบยื่นให้กับเด็ก ๆ เหล่านั้นบ้าง จริงหรือไม่ว่ายิ่งเราได้มีโอกาสไปช่วยผู้อื่น มันยิ่งทำให้เรารู้สึกว่าตัวเองมีค่าต่อคนอื่นมากขึ้น และเมือเราได้ใช้ความสามารถของตนเองเพื่อสร้างสรรค์ประโยชน์กับคนอื่น ก็ทำให้ใจของเราพองโตขึ้นมาไม่น้อยเลย อาจารย์จึงกลายเป็นแรงบันดาลใจแห่งการช่วยเหลือ แบ่งปัน และ สร้างสรรค์ ของผมตลอดมา
หลายครั้งอาจารย์กลายเป็นพระที่เทศนาธรรมได้ทั้งวันพระและวันธรรมดา การพูดถึงผลบุญจากการให้ทาน การรักษาศีล และการทำสมาธิ ภาวนา ของอาจารย์ ผมจะได้ยินแทบทุกวัน แต่สิ่งที่เห็นและเข้าใจคือความหวังดีที่มีต่อศิษย์ อยากให้ศิษย์เป็นคนดีและได้รับผลบุญจากการกระทำดีของตน หากจะมีความดีใดที่สามารถทำได้ ผมก็จะทำโดยไม่ลังเลใจ มันไม่สำคัญหรอกว่าการพูดเรื่องบาปบุญของอาจารย์จะน่าเบื่อมากแค่ไหน แต่สิ่งที่สำคัญคือทำไม อาจารย์จึงคอยบอกกล่าวกับหลาย ๆ เรื่อง ไม่ใช่แค่เรื่องบุญ บาป แต่รวมไปถึงการเรียน การตรงต่อเวลา การคิด การมีวินัย การมีคุณธรรม จริยธรรม การ อีก ต่าง ๆ มากมายหลายการ
อีกครั้ง...สำหรับคำว่าดีใจหรือขอบพระคุณคงไม่เพียงพอกับสิ่งที่ผมได้รับจากการเข้ามาเป็นศิษย์ของอาจารย์ และได้มีอาจารย์เป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิต ผมไม่ใช่คนวิเศษมาจากไหน แค่เด็กน้อย ทำตัวโง่ ๆเข้าไว้ แล้วพยายามทำตัวให้เป็นเหมือนกับฟองน้ำอันกระหายหิว ซึมซับ เอาความรู้ ประสบการณ์ จากผู้ใหญ่อาบน้ำร้อนก่อนเรา ก็เท่านั้น
เก่ง / ซิ่ง
(๐๖: ๐๒ น.)
๗ สิงหาคม ๒๕๕๓